Home ข่าวเศรษฐกิจ “นบมส.” ทุ่มงบ 1.28 พันล้านบาท ดูแลเสถียรภาพมันสำปะหลัง

“นบมส.” ทุ่มงบ 1.28 พันล้านบาท ดูแลเสถียรภาพมันสำปะหลัง

55
0
ภาพประกอบข่าว: “นบมส.” ทุ่มงบ 1.28 พันล้านบาท ดูแลเสถียรภาพมันสำปะหลัง
เครดิตภาพ: pompooFC

“นบมส.” หรือ คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง มีมติเห็นชอบในการอนุมัติงบประมาณรวมทั้งสิ้น 1,280 ล้านบาท เพื่อใช้ในการดำเนินมาตรการรักษาเสถียรภาพราคามันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ประจำปี 2566/67 โดยงบประมาณดังกล่าวจะถูกจัดสรรเพื่อสนับสนุนโครงการชดเชยดอกเบี้ยในการเก็บสต็อกมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกมันสำปะหลัง ทั้งนี้ การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นเพื่อเป็นการสร้างความมั่นคงในอาชีพของเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ทำให้พวกเขาสามารถจำหน่ายผลผลิตได้ในราคาที่เป็นธรรมและเหมาะสมกับต้นทุนการผลิต นอกจากนี้ มาตรการที่ได้รับอนุมัติยังมุ่งเน้นการส่งเสริมคุณภาพและการเพิ่มมูลค่าของมันสำปะหลังไทยในระยะยาว เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ สร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมมันสำปะหลังของประเทศอย่างยั่งยืน.

ประเด็นสำคัญจาก: “นบมส.” ทุ่มงบ 1.28 พันล้านบาท ดูแลเสถียรภาพมันสำปะหลัง

จากสถานการณ์ราคามันสำปะหลังที่มีความผันผวนและส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ของเกษตรกร ทำให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งหามาตรการในการแทรกแซงและดูแลเสถียรภาพราคา หนึ่งในมาตรการสำคัญที่ นบมส. ได้อนุมัติคือ โครงการชดเชยดอกเบี้ย ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อจูงใจให้ผู้ประกอบการและโรงงานแป้งมันสำปะหลังรับซื้อมันสำปะหลังและเก็บสต็อกไว้ในช่วงที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงต้นฤดู เพื่อลดปริมาณผลผลิตที่ล้นตลาดและป้องกันไม่ให้ราคาตกต่ำลง โครงการนี้จะช่วยลดภาระดอกเบี้ยของผู้ประกอบการ ทำให้พวกเขาสามารถรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรได้ในราคาที่สูงขึ้นและเป็นธรรม เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรและรักษาเสถียรภาพราคาในตลาดได้เป็นอย่างดี.

นอกจากการดูแลด้านราคาแล้ว นบมส. ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมันสำปะหลังในระยะยาว โดยได้จัดสรรงบประมาณส่วนหนึ่งเพื่อส่งเสริมโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกมันสำปะหลัง ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การสนับสนุนพันธุ์มันสำปะหลังคุณภาพดี การพัฒนาระบบน้ำ การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการดูแลแปลงปลูก รวมถึงการให้ความรู้และฝึกอบรมแก่เกษตรกร เพื่อให้สามารถลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิตต่อไร่ และได้ผลผลิตที่มีคุณภาพตรงตามความต้องการของอุตสาหกรรมแปรรูป การลงทุนในส่วนนี้ถือเป็นการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมมันสำปะหลังของไทย ทำให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ และยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน.

รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น

งบประมาณ 1,280 ล้านบาท ที่ได้รับการอนุมัติ จะถูกแบ่งเป็นสองส่วนหลักอย่างชัดเจน โดยส่วนแรกคือการชดเชยดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการและโรงงานแป้งมันสำปะหลังในการเก็บสต็อก ซึ่งเป็นมาตรการระยะสั้นที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาราคาในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากเกินไป การชดเชยดอกเบี้ยดังกล่าวจะช่วยลดภาระทางการเงินให้กับผู้ประกอบการ ทำให้พวกเขาสามารถถือครองสต็อกมันสำปะหลังได้นานขึ้นโดยไม่แบกรับต้นทุนดอกเบี้ยที่สูงเกินไป กลไกนี้จะช่วยดูดซับผลผลิตส่วนเกินออกจากตลาด ทำให้กลไกตลาดสามารถปรับตัวและรักษาระดับราคาที่ไม่ตกต่ำจนเกินไป เป็นประโยชน์โดยตรงต่อเกษตรกรที่จะสามารถขายผลผลิตได้ในราคาที่คุ้มค่ากับต้นทุนและแรงงานที่ลงไป การดำเนินการนี้ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงบทบาทของภาครัฐในการสนับสนุนภาคเกษตรกรรมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง.

ส่วนที่สองของงบประมาณจะใช้สำหรับการดำเนินงานโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูก ซึ่งเป็นมาตรการระยะยาวเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของมันสำปะหลังไทย โครงการนี้จะมุ่งเน้นที่การพัฒนาสายพันธุ์มันสำปะหลังที่ให้ผลผลิตสูง ต้านทานโรคและแมลงศัตรูพืช เพื่อลดความเสี่ยงจากการเพาะปลูก และเพิ่มผลผลิตต่อไร่ การส่งเสริมการใช้ปุ๋ยชีวภาพและการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยังเป็นส่วนสำคัญของโครงการ เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิต นอกจากนี้ การจัดอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรเกี่ยวกับเทคนิคการเพาะปลูกสมัยใหม่ การจัดการดินและน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เกษตรกรสามารถผลิตมันสำปะหลังที่มีคุณภาพดีขึ้น ตรงตามมาตรฐานของอุตสาหกรรมแปรรูปและตลาดส่งออก ทำให้มันสำปะหลังไทยมีศักยภาพในการสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนในอนาคต.

สรุปข่าวทั้งหมด

การอนุมัติงบประมาณ 1,280 ล้านบาท จากคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง (นบมส.) เพื่อดูแลเสถียรภาพราคามันสำปะหลังและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต นับเป็นมาตรการเชิงรุกที่สำคัญของภาครัฐในการสนับสนุนภาคเกษตรกรและอุตสาหกรรมมันสำปะหลังของไทย งบประมาณที่จัดสรรในส่วนของการชดเชยดอกเบี้ยเพื่อเก็บสต็อกมันสำปะหลังจะช่วยพยุงราคาไม่ให้ตกต่ำในช่วงที่ผลผลิตออกมาก และบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรได้ในระยะสั้น ขณะเดียวกัน การลงทุนในโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกเป็นการวางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการพัฒนาคุณภาพผลผลิตและลดต้นทุนในระยะยาว ซึ่งจะส่งผลให้มันสำปะหลังของไทยมีศักยภาพในการแข่งขันสูงขึ้นในตลาดโลก และสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังในอนาคต การดำเนินการตามมาตรการเหล่านี้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความยั่งยืนให้กับผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของประเทศต่อไป.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here