Home ข่าวเศรษฐกิจ SET มีสัญญาณบวก? นโยบายรัฐ หนุนเศรษฐกิจ ตลท. ย้ำต่างชาติยังรอสตอรี่หุ้นไทย ชูปันผลเป็นจุดแข็ง

SET มีสัญญาณบวก? นโยบายรัฐ หนุนเศรษฐกิจ ตลท. ย้ำต่างชาติยังรอสตอรี่หุ้นไทย ชูปันผลเป็นจุดแข็ง

266
0

ตลาดหุ้นไทยเริ่มมีสีสันและความคึกคักกลับมาอีกครั้ง หลังจากที่ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนมาสักพักใหญ่ ตอนนี้สัญญาณบวกเริ่มปรากฏชัดขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากปัจจัยในประเทศที่การเมืองเริ่มนิ่ง และมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาให้เห็น ไปจนถึงปัจจัยนอกประเทศอย่างทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่ดูเหมือนจะเป็นใจให้เงินทุนไหลเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่มากขึ้น

ในขณะที่เรากำลังตื่นเต้นกับแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ คำถามสำคัญที่ยังคงอยู่ในใจของหลายๆ คนก็คือแล้วเงินลงทุนจากต่างชาติ หรือ Fund Flow จะกลับมาจริงๆ เมื่อไหร่?

Thairath Money พาเจาะลึกทุกประเด็นสำคัญไปพร้อมๆ กัน ตั้งแต่สัญญาณบวกที่ทำให้เราใจชื้น สิ่งที่ต่างชาติกำลังรอคอย ความเสี่ยงที่ต้องจับตา ไปจนถึงแผนการยกเครื่องตลาดหุ้นไทยในอนาคต

ภาพรวมเศรษฐกิจชัดเจนขึ้น สัญญาณบวกตลาดหุ้นไทย

ดร.ศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร และโครงการกลยุทธ์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาพรวมของเศรษฐกิจประเทศเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งปัจจัยภายนอกและภายในประเทศ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีในการดึงดูดเงินลงทุน

สถานการณ์การเมืองไทยมีความชัดเจนมากขึ้น โดยมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ถูกมองว่าเป็นมืออาชีพ และเริ่มทยอยออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะมาตรการ “คนละครึ่ง” ที่ได้ประกาศออกมาแล้ว

ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้เกิดการหมุนเวียนของเงินในระบบเศรษฐกิจ และเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการบริโภค แม้ยังไม่ถึงช่วงที่เงินลงสู่ระบบ แต่ผลจาก “ข่าว” ก็ช่วยในแง่ของความคาดหวังได้แล้ว

นอกจากนี้ การที่สหรัฐอเมริกาได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นครั้งแรก ถือเป็นสัญญาณที่ดี แม้จะมีความเสี่ยงอยู่บ้างว่าการลดดอกเบี้ยจะเป็นไปอย่างต่อเนื่องหรือไม่ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งมาก อย่างไรก็ตาม การลดดอกเบี้ยนี้เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เงินทุนมีแนวโน้มไหลเข้ามามากขึ้น

อย่างไรก็ดี หากดูในแง่ของความแข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไทย พบว่า การจ่ายเงินปันผล (Dividend) ยังคงเข้มแข็ง และหลายบริษัทมีนโยบายปันผลที่ชัดเจนมากขึ้น

ในด้านของปริมาณการซื้อขาย (Volume) แม้จะยังน้อยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว ถือว่าพุ่งขึ้นค่อนข้างสูง นอกจากนี้ แรงขายจากกองทุน LTF ที่เคยค้างอยู่มากก็ได้ลดลงมากแล้ว ตั้งแต่ในช่วงสิงหาคมถึงกันยายน

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here