Home ข่าวเศรษฐกิจ ไทยเบฟเปิดแผนลงทุน 9 พันล้าน สร้างโรงเบียร์เขมรรองรับการเติบโตระยะยาว

ไทยเบฟเปิดแผนลงทุน 9 พันล้าน สร้างโรงเบียร์เขมรรองรับการเติบโตระยะยาว

261
0

นายฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) นำทีมผู้บริหารแถลงข่าวใหญ่ประจำปี 2568 กับเป้าหมายนำไทยเบฟสู่การเติบโตที่แข็งแกร่ง พร้อมสร้างสรรค์คุณค่าผ่าน PASSION 2030 ว่า นับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2568 ภาวะเศรษฐกิจจะยังมีความท้าทายทั้งในระดับโลกและระดับภูมิภาคยังคงเผชิญความท้าทายจากการเติบโตที่ชะลอตัว ความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงการท่องเที่ยวและการบริโภคที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้

 

 

สำหรบทิศทางเศรษฐกิจของไทยเมื่อมองสัญญาณตั้งแต่เดือนต.ค.เป็นต้นไป  แนวโน้มเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น  โดยรัฐบาลอนุทินเตรียมเดินหน้ามาตรการ “คนละครึ่ง” เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้ในความจริงแล้วทุกรัฐบาลต่างมีเครื่องมือและรูปแบบของการอัดงบเพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือทิศทางและเสถียรภาพทางการเมืองที่จะเป็นตัวกำหนดผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจในระยะยาว ท่ามกลางการแข่งขันในภูมิภาค ปัจจุบัน ไทยยังคงรั้งอันดับสองของอาเซียนรองจากอินโดนีเซีย หากเกิดความผิดพลาดหรือสะดุดอาจทำให้เสียจังหวะการพัฒนา แต่หากรักษาความมั่นคงและต่อยอดได้อย่างถูกทิศทาง ไทยมีศักยภาพจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำ

โดยผลประกอบการปีบัญชีของบริษัทในช่วง 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 2568 ไทยเบฟมีรายได้จากการขายรวม 258,621 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้การบริโภคจะชะลอตัวลง และถึงแม้จะมีการลงทุนในตราสินค้าและการตลาดที่เพิ่มขึ้นตามแผนงานที่วางไว้เพื่อเสริมศักยภาพในการแข่งขันให้แก่ตราสินค้าต่าง ๆ แต่กลุ่มมีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคา และค่าใช้จ่ายตัดบัญชี (EBITDA) ลดลง 4% จากปีก่อน เป็น 45,026 ล้านบาท

 

 

สำหรับธุรกิจหลัก สุรา ทำรายได้ 92,778 ล้านบาท  EBITDA ลดลงเป็น 22,161 ล้านบาทเนื่องจากค่าใช้จ่ายการตลาดที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนเพื่อเสริมแกร่งตราสินค้าและสนับสนุนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ส่วนธุรกิจต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงเมียนมา ยังคงมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง  และจะเน้นสร้างแบรนด์พรีเมียม แบรนด์ PRAKAAN และ ZATO

ธุรกิจเบียร์ ทำรายได้ 96,497 ล้านบาท  EBITDA 12,573 ลบ. เพิ่มชึ้น 4.8% จะเน้นการทำตลาดเสริมแบรนด์ช้าง ในไทย, ซาเบโก้ ในเวียดนามโดยเน้นนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์พรีเมียม และขยายช่องทางขาย

ส่วนเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ทำรายได้ 49,326  ล้านบาท  ลดลง 0.7%   EBITDA  8,718 ล้าน หรือลดลง 6.3% โดยจะตอกย้ำแบรนด์หลัก โออิชิ, คริสตัล และ เอส สำหรับธุรกิจอาหาร ทำรายได้ 16,563 ล้านบาท  ลดลง 1.4%  EBITDA  ลดลงเหลือจำนวน 1,578 ล้านบาท โดยจะมุ่งเดินหน้าขยายสาขาใหม่, พัฒนาเมนูและเน้นความยั่งยืน

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here