Home ข่าวการเมือง “นันทนา” หลั่งน้ำตาวุฒิฯฟันเรียก “สว.ขายหมู” สะท้อนสว.มีเจ้าของ ลั่นสู้สีน้ำเงินถึงที่สุด “ทนายอั๋น” ปูดจ่อล้มคดีฮั้ว

“นันทนา” หลั่งน้ำตาวุฒิฯฟันเรียก “สว.ขายหมู” สะท้อนสว.มีเจ้าของ ลั่นสู้สีน้ำเงินถึงที่สุด “ทนายอั๋น” ปูดจ่อล้มคดีฮั้ว

126
0
ภาพประกอบข่าว:
เครดิตภาพ: MGROnline

นันทนา นันทวโรภาส หรือ “ป้าเพนกวิน” ผู้สมัคร ส.ว.หมายเลข 13 ในกลุ่ม 13 ได้ออกมาแสดงความรู้สึกและให้สัมภาษณ์พิเศษกับทีมข่าว MGROnline ด้วยน้ำตาถึงสถานการณ์การเลือก ส.ว.ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยเธอได้กล่าวถึงประเด็นที่ว่าวุฒิสภาเป็นสภาของประชาชนอย่างแท้จริง หรือมี “เจ้าของ” อยู่เบื้องหลัง ซึ่งประเด็นนี้สร้างความกังวลใจอย่างมากต่อกระบวนการคัดเลือก รวมไปถึงบทบาทและอิสระของสมาชิกวุฒิสภาในอนาคต ทำให้เธอต้องออกมาต่อสู้เพื่อความถูกต้องและเป็นธรรมในการคัดเลือก ส.ว.ครั้งนี้

ประเด็นสำคัญจาก: “นันทนา” หลั่งน้ำตาวุฒิฯฟันเรียก “สว.ขายหมู” สะท้อนสว.มีเจ้าของ ลั่นสู้สีน้ำเงินถึงที่สุด “ทนายอั๋น” ปูดจ่อล้มคดีฮั้ว

ประเด็นสำคัญที่นางนันทนา นันทวโรภาส หรือ “ป้าเพนกวิน” ผู้สมัคร ส.ว.หมายเลข 13 ได้หยิบยกขึ้นมากล่าวถึง คือความกังวลที่ว่าการเลือกสมาชิกวุฒิสภาในครั้งนี้อาจถูกครอบงำหรือมีผู้มีอำนาจอยู่เบื้องหลัง ทำให้กระบวนการคัดเลือกไม่เป็นไปอย่างอิสระและโปร่งใสอย่างที่ควรจะเป็น เธอระบุว่าได้รับข้อมูลว่ามีอดีตผู้บริหารระดับสูงทางการเมืองที่ได้รับฉายาว่า “ตัวแสดงหลัก” พยายามเข้ามามีบทบาทในการชี้นำกระบวนการเลือก ส.ว. โดยเข้ามาสั่งการและควบคุมกลุ่มผู้สนับสนุนของตนเองให้เลือกบุคคลที่ต้องการ ทำให้เกิดข้อสงสัยอย่างมากเกี่ยวกับความเป็นอิสระของสถาบันวุฒิสภา และความชอบธรรมของสมาชิก ส.ว.ที่จะเข้ามาทำหน้าที่

สถานการณ์ดังกล่าวสร้างความไม่สบายใจให้กับผู้สมัครหลายราย รวมถึงประชาชนที่ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เพราะหากการเลือก ส.ว.ถูกกำหนดหรือชี้นำจากกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อหลักการประชาธิปไตยและการถ่วงดุลอำนาจของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งวุฒิสภาควรจะเป็นสถาบันที่ทำหน้าที่ตรวจสอบและให้คำแนะนำอย่างเป็นกลาง ไม่ใช่เป็นเครื่องมือของกลุ่มอำนาจใดอำนาจหนึ่ง นางนันทนาได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับสิ่งผิดปกติเหล่านี้อย่างถึงที่สุด โดยยืนยันว่าจะไม่ยอมให้การเลือก ส.ว.ในครั้งนี้ถูกชี้นำจากกลุ่มที่เธอเปรียบเทียบว่าเป็น “สีน้ำเงิน” ซึ่งเธอเชื่อว่ามีการแทรกแซงและฮั้วกันเกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ

ในอีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญ คือการที่นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ “ทนายอั๋น บุรีรัมย์” นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมที่ตอกย้ำความกังวลนี้ โดยระบุว่าได้รับข้อมูลว่าอาจมีความพยายามในการ “ล้มคดีฮั้ว” ที่เกิดขึ้นในการเลือก ส.ว.ครั้งนี้ ซึ่งหากเป็นจริง จะส่งผลให้กระบวนการตรวจสอบและเอาผิดผู้กระทำผิดเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น และจะทำให้ผู้ที่กระทำการทุจริตหรือฮั้วกันในการเลือก ส.ว.ลอยนวล ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อระบบยุติธรรมและความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกระบวนการทางการเมืองโดยรวม ประเด็นนี้ทำให้เกิดคำถามถึงความโปร่งใสของกระบวนการยุติธรรมและบทบาทของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบและป้องกันการทุจริต

รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น

นางนันทนา นันทวโรภาส ได้ย้ำว่าเธอได้ทำการต่อสู้เรื่องนี้มาโดยตลอด ตั้งแต่ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งวุฒิสภาชุดปัจจุบันด้วยซ้ำ โดยเธอพยายามเรียกร้องให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและประชาชนตระหนักถึงปัญหาการครอบงำอำนาจและอิทธิพลในการเลือก ส.ว. เธอเชื่อว่า ส.ว.ควรเป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่เป็นเพียงหุ่นเชิดหรือเครื่องมือของกลุ่มอำนาจใดอำนาจหนึ่ง ซึ่งการมาถึงจุดนี้ที่เธอต้องออกมาหลั่งน้ำตาแสดงถึงความอัดอั้นและความผิดหวังอย่างสุดซึ้งต่อสภาพการเมืองที่เธอประสบพบเจอ เธอเชื่อว่าประเทศไทยยังมีประชาชนที่รักความถูกต้องและต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น และเธอพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้ครั้งนี้ แม้จะต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มอำนาจใหญ่ก็ตาม

การแสดงออกของนางนันทนาและการเปิดเผยข้อมูลของ “ทนายอั๋น” ได้จุดประกายให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์และจับตาการเลือก ส.ว.ครั้งนี้อย่างเข้มข้นยิ่งขึ้น ประชาชนจำนวนมากต่างเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบการทุจริต เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดและโปร่งใส เพื่อสร้างความมั่นใจว่าการเลือก ส.ว.จะเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ปราศจากการครอบงำหรือชี้นำจากกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หากมีการละเลยหรือไม่ดำเนินการอย่างจริงจัง อาจส่งผลให้เกิดวิกฤตความเชื่อมั่นต่อสถาบันทางการเมือง และอาจนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรงขึ้นในอนาคต ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้นในประเทศ

นอกจากนี้ ประเด็นที่ “ทนายอั๋น” ปูดเรื่อง “จ่อล้มคดีฮั้ว” ยิ่งเพิ่มความซับซ้อนให้กับสถานการณ์ เพราะหากมีการฮั้วกันเกิดขึ้นจริงและยังถูกปกป้องโดยกระบวนการยุติธรรม ย่อมบั่นทอนหลักการนิติรัฐและความยุติธรรมในสังคมไทย การเรียกร้องให้เปิดเผยข้อมูลและตรวจสอบอย่างโปร่งใสจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่าไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นผู้มีอำนาจหรือผู้มีอิทธิพลทางการเมืองก็ตาม การต่อสู้ของนางนันทนาจึงไม่ได้เป็นเพียงการต่อสู้เพื่อตำแหน่ง ส.ว.เท่านั้น แต่เป็นการต่อสู้เพื่อรักษาหลักการประชาธิปไตยและความถูกต้องในกระบวนการทางการเมืองของประเทศไทย

สรุปข่าวทั้งหมด

สถานการณ์การเลือกตั้ง ส.ว.ในครั้งนี้กำลังเผชิญกับข้อกล่าวหาและความกังวลเกี่ยวกับการครอบงำและแทรกแซงจากกลุ่มอำนาจ โดยเฉพาะจากคำกล่าวของนางนันทนา นันทวโรภาส ผู้สมัคร ส.ว. ที่ออกมาเปิดเผยความอัดอั้นใจและระบุว่าอาจมี “เจ้าของ” อยู่เบื้องหลังวุฒิสภา รวมถึงการที่นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ “ทนายอั๋น” ได้ปูดข้อมูลเรื่องความพยายามที่จะล้มคดีฮั้ว ทำให้เกิดคำถามอย่างมากถึงความโปร่งใสและเป็นธรรมของกระบวนการทั้งหมด การต่อสู้ของนางนันทนาที่ประกาศว่าจะชนกับ “สีน้ำเงิน” อย่างถึงที่สุด สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะปกป้องหลักการประชาธิปไตย แม้จะต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคที่ใหญ่หลวง ประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้องจับตาดูสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่าการเลือก ส.ว.จะเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างแท้จริงในระยะยาว

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here