คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เป็นประธาน ได้เชิญ น.ส.นฤมล หรือ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตเหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน เข้าชี้แจงประเด็นเกี่ยวกับการจัดพิมพ์แบบเรียนสำหรับปีการศึกษา 2569 ในสัปดาห์หน้า โดยเฉพาะการตั้งข้อสังเกตและแสดงความข้องใจว่า เหตุใดจึงยังคงเลือกใช้บริการขององค์การค้าของ สกสค. (สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา) ในการดำเนินการจัดพิมพ์แบบเรียน ทั้งที่ผ่านมา องค์การค้าของ สกสค. มีประวัติปัญหาและประเด็นข้อสังเกตด้านความโปร่งใสและประสิทธิภาพในการดำเนินงานอยู่เป็นจำนวนมาก สะท้อนถึงความห่วงใยว่า อาจเกิดปัญหาซ้ำรอยเดิมที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพการศึกษาและงบประมาณแผ่นดิน
ประเด็นสำคัญจาก: ‘กมธ.ป.ป.ช. สภาฯ’ เชิญ ‘นฤมล’ ถกพิมพ์แบบเรียนปี 69 สัปดาห์หน้า ข้องใจยังใช้ ‘องค์การค้าฯ‘ ทั้งที่แผลเพียบ
การเรียก น.ส. นฤมล เข้าชี้แจงครั้งนี้เกิดขึ้น หลังจาก กมธ. ได้รับเรื่องร้องเรียนและข้อมูลที่แสดงถึงความไม่ชอบมาพากลในการจัดพิมพ์แบบเรียนขององค์การค้าของ สกสค. มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับความล่าช้าในการจัดส่งแบบเรียน ปัญหาด้านคุณภาพการพิมพ์ และข้อสงสัยเกี่ยวกับกระบวนการจัดจ้างที่อาจขาดความโปร่งใส ซึ่งปัญหาเหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อนักเรียน ครู และผู้ปกครองทั่วประเทศ รวมถึงงบประมาณที่รัฐจัดสรรงบประมาณให้กับหน่วยงานดังกล่าว เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดพิมพ์แบบเรียนแต่ละปี จึงเป็นหน้าที่ของกรรมาธิการที่จะต้องตรวจสอบเพื่อป้องกันมิให้เกิดการสิ้นเปลืองงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์ หรือมีการทุจริตเกิดขึ้น
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ในฐานะประธาน กมธ. ป.ป.ช. สภาฯ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการตรวจสอบเรื่องนี้ โดยระบุว่า การศึกษาเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศ และแบบเรียนเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่มีผลต่อคุณภาพการศึกษา หากกระบวนการจัดพิมพ์แบบเรียนไม่มีประสิทธิภาพและไม่โปร่งใส ก็จะส่งผลกระทบโดยรวมต่ออนาคตของชาติได้ นอกจากนี้ การที่องค์การค้าของ สกสค. ได้รับสัมปทานในการจัดพิมพ์แบบเรียนมาโดยตลอด แม้จะมีปัญหาเกิดขึ้นซ้ำซาก ทำให้เกิดคำถามว่า มีปัจจัยใดที่ทำให้หน่วยงานนี้ยังคงได้รับความไว้วางใจ และกระบวนการคัดเลือกผู้จัดพิมพ์นั้นเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลหรือไม่ ความโปร่งใสในการดำเนินงานจึงเป็นหัวใจสำคัญที่ กมธ. ต้องการเข้าตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อคลายข้อกังขาและเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ.
รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น
ประเด็นที่ กมธ. ป.ป.ช. สภาฯ ต้องการสอบถามจาก น.ส. นฤมล รวมถึงกระบวนการตัดสินใจเลือกองค์การค้าของ สกสค. ในการจัดพิมพ์แบบเรียนปี 2569 ซึ่งเป็นปีงบประมาณที่ยังมาไม่ถึง โดยคาดว่าจะมีการสอบถามถึงข้อมูลประกอบการพิจารณา การประชุม หรือมติที่เกี่ยวข้องกับการให้สัมปทานการจัดพิมพ์แบบเรียน รวมถึงเหตุผลที่หน่วยงานอื่น ๆ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการพิมพ์และมีประสิทธิภาพสูงกว่าไม่ได้รับโอกาสในการแข่งขันอย่างเท่าเทียม การใช้จ่ายงบประมาณที่ผ่านมาขององค์การค้าของ สกสค. ก็จะเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาสอบถาม เพื่อความชัดเจนและโปร่งใสในการดำเนินงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวและข้อร้องเรียนเกี่ยวกับความไม่โปร่งใสในการบริหารจัดการภายในองค์กร ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของสาธารณชน
นอกจากนี้ กมธ. ยังต้องการทราบถึงมาตรการที่กระทรวงศึกษาธิการ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้วางแผนไว้ เพื่อแก้ปัญหาที่เคยเกิดขึ้นในอดีตกับองค์การค้าของ สกสค. ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความล่าช้าในการส่งมอบหนังสือ ข้อผิดพลาดในการจัดพิมพ์ หรือการทุจริตคอร์รัปชันต่าง ๆ ที่เคยเป็นข่าวโด่งดัง โจทย์สำคัญคือ มีการนำบทเรียนในอดีตมาปรับปรุงแก้ไขอย่างไร และมีกลไกป้องกันการเกิดปัญหาซ้ำซ้อนอย่างเป็นรูปธรรมหรือไม่ รวมถึงประเด็นข้อสงสัยถึงผลประโยชน์ทับซ้อนที่อาจเกิดขึ้น อันเนื่องมาจากความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหารและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง การชี้แจงของ น.ส. นฤมล จึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยไขข้อกระจ่างและความจริงในประเด็นเหล่านี้ สอดรับกับแนวทางการทำงานของ กมธ. ป.ป.ช. ที่มุ่งเน้นการตรวจสอบเพื่อป้องกันการทุจริตและส่งเสริมธรรมาภิบาลในหน่วยงานภาครัฐ
สรุปข่าวทั้งหมด
การเชิญ น.ส. นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เข้าชี้แจงต่อ กมธ. ป.ป.ช. สภาฯ ในสัปดาห์หน้า สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของคณะกรรมาธิการในการตรวจสอบการใช้งบประมาณแผ่นดินและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานรัฐ โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการจัดพิมพ์แบบเรียน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อระบบการศึกษาของประเทศโดยตรง ด้วยประวัติปัญหาขององค์การค้าของ สกสค. ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ทำให้การตัดสินใจใช้บริการของหน่วยงานนี้ในการจัดพิมพ์แบบเรียนปี 2569 กลายเป็นข้อกังขาที่จำเป็นต้องได้รับการชี้แจงอย่างละเอียดและชัดเจน การประชุมครั้งนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญในการเปิดเผยข้อมูล ความจริง และแนวทางการแก้ไขปัญหา เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการบริหารจัดการงบประมาณและทรัพยากรของภาครัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อเยาวชนและประเทศชาติในระยะยาว
