คลัง-แบงก์ชาติ ร่วมมือกันริเริ่มมาตรการ “พี่ช่วยน้อง” เพื่อสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ของไทยให้สามารถปรับตัวและเตรียมพร้อมรับมือกับกฎระเบียบภาษีใหม่ของสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการภาษีคาร์บอน (CBAM) ที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออก โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง มาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างศักยภาพทางการเงินและองค์ความรู้ให้ SME สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อแนวโน้มการค้าโลกที่ให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม.
ประเด็นสำคัญจาก: คลัง-แบงก์ชาติ ช่วย SME ออกมาตรการ “พี่ช่วยน้อง” รับมือภาษีสหรัฐฯ
กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ผนึกกำลังกันเพื่อคลี่คลายความกังวลของกลุ่มผู้ประกอบการ SME ที่กำลังเผชิญกับความท้าทายจากนโยบายภาษีใหม่ของสหรัฐฯ โดยนโยบายเหล่านี้รวมถึงการปรับโครงสร้างภาษีนำเข้าที่อาจเชื่อมโยงกับการปล่อยคาร์บอน ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนการผลิตและการดำเนินงานของผู้ส่งออกไทย การพัฒนากลยุทธ์ “พี่ช่วยน้อง” นี้เกิดขึ้นภายใต้การวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบ เพื่อให้มั่นใจว่ามาตรการที่ออกมาจะสามารถตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของ SME และช่วยลดภาระที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ.
มาตรการดังกล่าวไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่การให้ความช่วยเหลือทางการเงินเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการให้คำปรึกษา แนะนำ และพัฒนาองค์ความรู้ที่จำเป็นเพื่อให้ SME สามารถปรับปรุงกระบวนการผลิต ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และปฏิบัติตามมาตรฐานสากลที่เข้มงวดขึ้นในอนาคต ซึ่งรวมถึงการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสะอาดและการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน เพื่อให้ SME มีขีดความสามารถในการแข่งขันที่เหนือกว่าและสามารถเข้าถึงตลาดใหม่ๆ ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม. ทั้งนี้ ยังเปิดโอกาสให้มีการเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำและสินเชื่อเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต.
รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น
กลไกสำคัญภายใต้มาตรการ “พี่ช่วยน้อง” คือการจัดตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางข้อมูลและให้คำปรึกษาแก่ SME ในการประเมินผลกระทบจากกฎระเบียบใหม่ของสหรัฐฯ ตลอดจนวางแผนและจัดทำแผนปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรมเพื่อลดความเสี่ยง ภายในคณะทำงานประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมการค้า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่แข็งแกร่งและเสริมสร้างความเข้าใจในประเด็นที่ซับซ้อนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและนโยบายการค้าโลกที่ยั่งยืน.
นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณาจัดสรรงบประมาณพิเศษเพื่อสนับสนุนโครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับ SME รวมถึงการจัดอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการเกี่ยวกับการคำนวณปริมาณการปล่อยคาร์บอน (carbon footprint) และการรับรองมาตรฐานสากลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยให้ SME ไทยสามารถพิสูจน์ได้ว่าผลิตภัณฑ์ของตนมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และสอดคล้องกับข้อกำหนดของผู้ซื้อในตลาดสหรัฐฯ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับตัวในระยะยาว.
สรุปข่าวทั้งหมด
มาตรการ “พี่ช่วยน้อง” ที่ริเริ่มโดยกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย ถือเป็นหนึ่งในความพยายามสำคัญของภาครัฐในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาค SME ของไทย เพื่อรับมือกับความท้าทายจากกฎระเบียบภาษีและการค้าใหม่ของสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการภาษีคาร์บอนที่กำลังจะเกิดขึ้น มาตรการนี้ไม่เพียงแต่มุ่งเน้นการสนับสนุนทางการเงิน แต่ยังรวมถึงการให้ความรู้ การพัฒนาทักษะ และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อให้ SME สามารถปรับตัว ลดผลกระทบ และคว้าโอกาสในการเติบโตอย่างยั่งยืนในเวทีการค้าโลกที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในอนาคต ความสำเร็จของมาตรการนี้ขึ้นอยู่กับการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพและการทำงานร่วมกันระหว่างทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจให้กับ SME ไทยและประเทศโดยรวม.
