ฮัลโหลดารา และครอบครัว ‘พุทธินันทน์’ รวมถึงผู้ใกล้ชิด ได้พร้อมใจกันจัดพิธีทำบุญ เพื่ออุทิศส่วนกุศลและรำลึกถึงนักร้องนักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์ชื่อดังผู้ล่วงลับ ‘เต๋อ-เรวัต พุทธินันทน์’ เนื่องในโอกาสครบรอบ 29 ปี แห่งการจากไปของศิลปินผู้เป็นตำนาน โดยพิธีดังกล่าวจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายและอบอุ่น ณ วัดธรรมมงคล ถนนสุขุมวิท 101 ซึ่งเป็นสถานที่ที่ครอบครัวและบุคคลใกล้ชิดได้มารวมตัวกันเป็นประจำทุกปี เพื่อร่วมกันทำบุญถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ และร่วมกันระลึกถึงคุณงามความดี ผลงาน และอิทธิพลที่ ‘เต๋อ-เรวัต’ ได้สร้างไว้ในวงการเพลงไทย ซึ่งยังคงได้รับการกล่าวถึงและเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นหลังอย่างต่อเนื่อง การรวมตัวกันในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความผูกพันและความทรงจำอันดีงามที่ทุกคนยังคงมีต่อ เต๋อ-เรวัต ผู้จากไป
ประเด็นสำคัญจาก: ฮัลโหลดารา-ครอบครัว ‘พุทธินันทน์’ ทำบุญระลึกถึงการจากไป ครบรอบ 29 ปี ของ ‘เต๋อ-เรวัต’
การจัดพิธีทำบุญครบรอบ 29 ปี การจากไปของ ‘เต๋อ-เรวัต พุทธินันทน์’ ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความทรงจำที่ยังคงตราตรึงอยู่ในใจของคนรอบข้างและผู้ที่ได้รับอิทธิพลจากผลงานของเขา สำหรับครอบครัว ‘พุทธินันทน์’ โดยเฉพาะลูกสาวอย่าง ‘น้องเอื้อง-อัตตา พุทธินันทน์’ การรำลึกถึงคุณพ่อผู้ล่วงลับเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและประเพณีที่ปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่องทุกปี แม้เวลาจะผ่านไปเกือบสามทศวรรษแล้วก็ตาม การทำบุญที่วัดธรรมมงคลไม่ได้เป็นเพียงการถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์เท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสให้ครอบครัว มิตรสหาย และผู้ร่วมงานในอดีตได้มาพบปะแลกเปลี่ยนเรื่องราวความทรงจำดีๆ ที่มีต่อ ‘เต๋อ-เรวัต’ ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญที่สร้างคุณูปการอย่างใหญ่หลวงให้กับวงการดนตรีและวงการบันเทิงไทย
พิธีทำบุญในแต่ละปีจึงเป็นเหมือนเครื่องหมายของการแสดงความกตัญญูและความเคารพต่อบุคคลอันเป็นที่รัก ที่แม้ร่างกายจะจากไปแล้ว แต่จิตวิญญาณและผลงานยังคงอยู่ การมารวมตัวกันของ “ฮัลโหลดารา” ซึ่งเป็นกลุ่มเพื่อนศิลปินที่ใกล้ชิดและเคยร่วมงานกับ ‘เต๋อ-เรวัต’ รวมถึงบุคคลในวงการเพลงที่ได้รับอิทธิพลจากแนวคิดและผลงานของเขา ก็ยิ่งทำให้งานทำบุญครั้งนี้มีความหมายมากยิ่งขึ้น บรรยากาศภายในงานจึงเต็มไปด้วยความสงบ ความระลึกถึง และความอบอุ่น ที่สะท้อนให้เห็นถึงความผูกพันอันแน่นแฟ้นระหว่างบุคคลเหล่านี้กับ ‘เต๋อ-เรวัต’ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้วางรากฐานสำคัญให้กับอุตสาหกรรมเพลงสมัยใหม่ในประเทศไทย
รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น
‘เต๋อ-เรวัต พุทธินันทน์’ ไม่ได้เป็นเพียงศิลปินผู้มากฝีมือเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้บริหารและโปรดิวเซอร์ที่มองการณ์ไกล เขาคือผู้ร่วมก่อตั้งและเป็นหัวเรือใหญ่ในการบุกเบิกค่ายเพลงแกรมมี่ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพลิกโฉมวงการเพลงไทยจากยุคที่เพลงลูกทุ่งและสตริงคอมโบ้ครองตลาด สู่ยุคทองของป็อปร็อกและดนตรีที่หลากหลายมากขึ้น การที่เขาได้นำเสนอนวัตกรรมทางดนตรีใหม่ๆ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้กับศิลปินรุ่นใหม่มากมาย ทำให้แกรมมี่กลายเป็นสถาบันที่ผลิตศิลปินคุณภาพและบทเพลงอมตะจำนวนมาก ซึ่งยังคงเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน ผลงานเพลงที่เขาแต่ง ทำนอง หรือโปรดิวซ์ ล้วนแต่มีเอกลักษณ์และสามารถเข้าถึงใจผู้ฟังได้ทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเพลงส่วนตัวหรือเพลงที่ทำให้ศิลปินคนอื่นๆ อาทิ เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์, ไมโคร, คริสติน่า อากีล่าร์ และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งล้วนได้รับอิทธิพลจากวิสัยทัศน์ของเขา การจากไปของเขาในปี 2539 จึงนับเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่สำหรับวงการเพลงไทยอย่างแท้จริง
การจัดพิธีทำบุญในแต่ละปีที่ดำเนินมายาวนานถึง 29 ปี จึงเป็นเครื่องยืนยันว่ามรดกทางดนตรีและแนวคิดของ ‘เต๋อ-เรวัต’ ยังคงมีชีวิตชีวาและถูกจดจำ การที่ครอบครัวและเพื่อนร่วมวงการยังคงรวบรวมตัวกันเพื่อรำลึกถึง แสดงให้เห็นถึงความผูกพันและคุณูปการที่ไม่เสื่อมคลาย ไม่ใช่เพียงแค่การทำบุญตามพิธี แต่ยังเป็นการส่งต่อเรื่องราวและแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นต่อไป ปัจจุบันบทเพลงที่ ‘เต๋อ-เรวัต’ มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ยังคงถูกเปิดและขับขานอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าผลงานที่เขาสร้างสรรค์ขึ้นนั้นเป็นอมตะและข้ามผ่านกาลเวลามาได้อย่างงดงาม ทุกครั้งที่มีการรวมตัวกันลักษณะนี้ ยังคงมีการพูดถึงความเสียดายที่วงการเพลงได้สูญเสียนักคิด นักสร้างสรรค์ ผู้บุกเบิกคนสำคัญไป แต่ก็เป็นความสุขที่ได้เห็นการสานต่อเจตนารมณ์และความทรงจำดีๆ ที่เขาทิ้งไว้
สรุปข่าวทั้งหมด
การจัดพิธีทำบุญเพื่อรำลึกถึง ‘เต๋อ-เรวัต พุทธินันทน์’ ในโอกาสครบรอบ 29 ปี แห่งการจากไป ณ วัดธรรมมงคล โดยครอบครัว ‘พุทธินันทน์’ และกลุ่ม “ฮัลโหลดารา” รวมถึงมิตรสหายและผู้ร่วมงานในอดีต เป็นการแสดงออกถึงความผูกพันและความทรงจำอันดีงามที่ทุกคนยังคงมีต่อศิลปินผู้เป็นตำนานผู้นี้ พิธีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงคุณูปการอันมหาศาลที่ ‘เต๋อ-เรวัต’ ได้สร้างไว้ในวงการเพลงไทย ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญที่ส่งผลต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมดนตรีไทยมาจนถึงปัจจุบัน แม้เวลาจะผ่านไปเกือบสามทศวรรษแล้ว ผลงาน แนวคิด และจิตวิญญาณของเขาก็ยังคงได้รับการกล่าวขานและเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นหลังอย่างไม่เสื่อมคลาย การรำลึกถึงนี้จึงมิใช่เพียงพิธีกรรมทางศาสนา แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงคุณค่าของบุคคลสำคัญที่ยังคงอยู่ในใจของผู้คนตลอดมา.
