
รมว.เกษตรฯ นายธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แถลงถึงความพร้อมในการดำเนินโครงการเก็บรักษาข้าวเปลือกของเกษตรกร โดยจะเป็นการนำร่องในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งมีกำหนดเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 นี้ โดยโครงการดังกล่าวมีเป้าหมายหลักในการช่วยพยุงราคาข้าวและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว ที่มักประสบปัญหาราคาข้าวตกต่ำเนื่องจากผลผลิตจำนวนมากออกสู่ตลาดพร้อมกัน การริเริ่มโครงการนี้ถือเป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญของรัฐบาลที่มุ่งหวังสร้างเสถียรภาพด้านราคาและรายได้ให้กับชาวนาไทย ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจภาคเกษตรกรรมของประเทศ
ประเด็นสำคัญจาก: รมว.เกษตรฯ ชี้ 1 พ.ย.เริ่มโครงการเก็บรักษาข้าว นำร่องที่ร้อยเอ็ด
การดำเนินการโครงการเก็บรักษาข้าวเปลือกของเกษตรกรมีวัตถุประสงค์เพื่อชะลอการจำหน่ายข้าวเปลือกในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก โดยเป็นการให้ทางเลือกแก่เกษตรกรในการเก็บข้าวไว้ในยุ้งฉางเพื่อรอจังหวะที่ราคาตลาดเอื้ออำนวยมากขึ้น แนวคิดนี้เป็นที่ยอมรับกันในวงกว้างว่าสามารถช่วยลดแรงกดดันด้านอุปทานในช่วงที่ข้าวออกสู่ตลาดจำนวนมาก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ราคาข้าวตกต่ำได้ การจัดทำโครงการนำร่องที่จังหวัดร้อยเอ็ดในครั้งนี้เป็นการสะท้อนถึงการให้ความสำคัญกับพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตข้าวที่สำคัญของประเทศไทย และมีเกษตรกรจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของราคาข้าวอย่างต่อเนื่อง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ เพื่อให้โครงการสามารถขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในส่วนของงบประมาณสนับสนุน การกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการเข้าร่วมโครงการ รวมถึงการประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลแก่เกษตรกรในพื้นที่ได้รับทราบอย่างทั่วถึง การเตรียมการเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างความเข้าใจและอำนวยความสะดวกให้เกษตรกรสามารถเข้าร่วมโครงการได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณาถึงกลไกการบริหารจัดการข้าวที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีการเก็บรักษาข้าวเปลือกอย่างถูกสุขลักษณะและคงคุณภาพไว้ได้ตลอดระยะเวลาที่จัดเก็บ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อการรักษามาตรฐานของข้าวไทย
การเริ่มต้นโครงการในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ถือเป็นจังหวะที่เหมาะสม เนื่องจากเป็นช่วงเริ่มต้นของฤดูเก็บเกี่ยวข้าวนาปีในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การดำเนินงานในช่วงเวลาดังกล่าวจะช่วยให้เกษตรกรสามารถตัดสินใจเข้าร่วมโครงการได้ทันท่วงที ก่อนที่ปัญหาข้าวล้นตลาดจะส่งผลกระทบต่อราคาอย่างรุนแรง การนำร่องในจังหวัดร้อยเอ็ดนี้ จะเป็นบทเรียนสำคัญที่จะประเมินผลและปรับปรุงโครงการให้มีความเหมาะสมและสามารถขยายผลไปยังจังหวัดอื่น ๆ ที่ประสบปัญหาคล้ายคลึงกันในอนาคต ทำให้โครงการนี้มีความยั่งยืนและเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรทั่วประเทศต่อไป
รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น
โครงการเก็บรักษาข้าวเปลือกนี้จะมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างศักยภาพของเกษตรกรในการบริหารจัดการผลผลิตของตนเอง ซึ่งรวมถึงการให้ความรู้และสนับสนุนปัจจัยที่เอื้อต่อการเก็บรักษาข้าวอย่างมีคุณภาพ เช่น การเข้าถึงยุ้งฉางที่ได้มาตรฐาน หรือการส่งเสริมเทคนิคการเก็บรักษาที่เหมาะสม เพื่อลดการสูญเสียผลผลิตระหว่างการจัดเก็บ คุณภาพของข้าวที่ถูกเก็บรักษาเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากจะส่งผลต่อราคาและโอกาสในการจำหน่ายเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม การที่เกษตรกรสามารถรักษคุณภาพข้าวไว้ได้ จะเป็นการเพิ่มอำนาจการต่อรองและทำให้ได้รับราคาที่เป็นธรรมมากขึ้น การเข้าร่วมโครงการนี้จะไม่เพียงแต่ช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเรื่องราคาข้าวตกต่ำ แต่ยังเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรมีความรู้และเครื่องมือในการบริหารจัดการผลผลิตในระยะยาวอีกด้วย
ในส่วนของการขับเคลื่อนโครงการ รมว.เกษตรฯ ได้เน้นย้ำถึงความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เอง กระทรวงพาณิชย์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างบูรณาการและครอบคลุมทุกมิติ โดยเฉพาะบทบาทของ ธ.ก.ส. ที่อาจเข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนสินเชื่อหรือเงินทุนแก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาข้าวเปลือก หรือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในระหว่างที่รอการจำหน่ายข้าว การสนับสนุนทางการเงินเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เกษตรกรสามารถยืดหยัดอยู่ได้โดยไม่จำเป็นต้องเร่งระบายข้าวออกจากยุ้งฉางในราคาที่ไม่มีเสถียรภาพ การประสานงานที่แนบแน่นระหว่างหน่วยงานเหล่านี้จะช่วยให้โครงการบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ได้อย่างเต็มที่
สรุปข่าวทั้งหมด
โครงการเก็บรักษาข้าวเปลือกของเกษตรกร ที่มีกำหนดเริ่มต้นนำร่องในจังหวัดร้อยเอ็ดในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ภายใต้การนำของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายธรรมนัส พรหมเผ่า ถือเป็นมาตรการสำคัญที่มุ่งหวังช่วยพยุงราคาข้าวและสร้างเสถียรภาพด้านรายได้ให้แก่เกษตรกร โครงการนี้มีเป้าหมายในการชะลอการจำหน่ายข้าวในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากเกินไป โดยให้ทางเลือกแก่เกษตรกรในการจัดเก็บข้าวเปลือกไว้รอราคาที่เหมาะสม ซึ่งจะเป็นการลดแรงกดดันด้านอุปทานและเพิ่มอำนาจการต่อรองให้ชาวนา การดำเนินงานในจังหวัดร้อยเอ็ดจะเป็นต้นแบบในการประเมินผลเพื่อขยายผลไปยังพื้นที่อื่น ๆ ในอนาคต โดยได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน เพื่อให้เกษตรกรสามารถบริหารจัดการผลผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนต่อไป























