Home ข่าวเศรษฐกิจ กสทช. ผนึกหน่วยภาครัฐ MOU ร่วมมือกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์

กสทช. ผนึกหน่วยภาครัฐ MOU ร่วมมือกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์

70
0
ภาพประกอบข่าว: กสทช. ผนึกหน่วยภาครัฐ MOU ร่วมมือกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์
เครดิตภาพ: Pattama

กสทช. ผนึกกำลังกับหน่วยงานภาครัฐหลายภาคส่วน เพื่อลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในการกวาดล้างและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ที่สร้างความเสียหายให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยการร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งในการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ประสานงาน และดำเนินการเชิงรุกเพื่อหยุดยั้งภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในปัจจุบัน การลงนาม MOU นี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยในการใช้บริการโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ตมากยิ่งขึ้น และยังเป็นการแสดงออกถึงความมุ่งมั่นของทุกภาคส่วนในการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนจากกลุ่มมิจฉาชีพที่อาศัยช่องทางเทคโนโลยีในการก่ออาชญากรรม

ประเด็นสำคัญจาก: กสทช. ผนึกหน่วยภาครัฐ MOU ร่วมมือกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์

การร่วมมือระหว่าง กสทช. และหน่วยงานภาครัฐในครั้งนี้เกิดขึ้นจากความตระหนักถึงปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่ทวีความรุนแรงและซับซ้อนขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีของแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ที่สร้างความเสียหายเป็นมูลค่ามหาศาลแก่ประชาชนและระบบเศรษฐกิจของประเทศ นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รูปแบบการหลอกลวงได้ปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ โดยมิจฉาชีพมักอาศัยความกังวลและความไม่เข้าใจเทคโนโลยีของประชาชนเป็นช่องทางในการหลอกลวง อาทิ การแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เจ้าหน้าที่ธนาคาร หรือบริษัทขนส่ง เพื่อหลอกขอข้อมูลส่วนตัว รหัส OTP หรือแม้กระทั่งโอนเงิน ด้วยเหตุนี้ การทำงานแบบต่างคนต่างทำจึงไม่เพียงพอต่อการรับมือกับภัยคุกคามที่ไร้พรมแดน กสทช. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมและกระจายเสียง จึงได้ริเริ่มผลักดันให้เกิดการรวมพลังจากทุกภาคส่วน เพื่อสร้างกลไกการทำงานที่มีประสิทธิภาพและครอบคลุมทุกมิติมากยิ่งขึ้น

ประเด็นสำคัญของการลงนาม MOU ครั้งนี้คือการมุ่งเน้นไปที่การบูรณาการข้อมูลและทรัพยากร รวมถึงการกำหนดแนวทางปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานร่วมกัน เพื่อให้การดำเนินการสืบสวน สอบสวน และปราบปรามเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น หน่วยงานที่เข้าร่วม MOU จะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติการณ์ของมิจฉาชีพ แหล่งที่มาของเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ในการกระทำความผิด บัญชีธนาคารที่ใช้รับโอนเงิน รวมถึงช่องทางและเทคนิคการหลอกลวงใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมีการวางแผนร่วมกันในการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อรองรับการทำงาน เช่น ระบบฐานข้อมูลกลางที่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลจากทุกหน่วยงานได้แบบเรียลไทม์ เพื่อให้สามารถติดตามและระบุตัวผู้กระทำความผิดได้อย่างทันท่วงที การสร้างความร่วมมือในระดับปฏิบัติการจะช่วยลดช่องว่างของการทำงาน และเพิ่มโอกาสในการจับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น

รายละเอียดของการลงนาม MOU ครั้งนี้ครอบคลุมการกำหนดบทบาทหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานอย่างชัดเจน โดย กสทช. จะรับผิดชอบในการกำกับดูแลผู้ให้บริการโทรคมนาคมให้ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ทั้งในส่วนของการลงทะเบียนซิมการ์ด การตรวจสอบข้อมูลผู้ใช้บริการ และการระงับสัญญาณโทรศัพท์ที่ถูกใช้ในการกระทำความผิด ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสกัดกั้นช่องทางหลักที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ในการติดต่อประชาชน นอกจากนี้ กสทช. ยังมีบทบาทในการผลักดันให้มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการคัดกรองและบล็อกเบอร์โทรศัพท์หรือ SMS ที่มีลักษณะน่าสงสัยหรือเป็นอันตราย ก่อนที่จะไปถึงมือประชาชน เพื่อลดโอกาสในการถูกหลอกลวงตั้งแต่ต้นทาง นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาแอปพลิเคชันหรือแพลตฟอร์มแจ้งเตือนภัย เพื่อให้ประชาชนสามารถระบุและรายงานพฤติกรรมน่าสงสัยได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งข้อมูลที่ได้รับจะถูกนำไปวิเคราะห์และใช้ในการดำเนินการเชิงรุกต่อไป

ส่วนหน่วยงานภาครัฐอื่นๆ ที่เข้าร่วมลงนาม MOU ต่างก็มีบทบาทที่สำคัญไม่แพ้กัน อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการสืบสวน สอบสวน และปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จะได้ใช้ข้อมูลที่ได้รับจาก กสทช. และหน่วยงานอื่นๆ ในการติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วขึ้น รวมถึงการขยายผลไปสู่การจับกุมเครือข่ายขนาดใหญ่ นอกจากนี้ สถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องก็จะเข้ามามีบทบาทในการตรวจสอบและอายัดบัญชีธนาคารที่เป็นช่องทางในการฟอกเงินของมิจฉาชีพอย่างทันท่วงที ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้เงินของประชาชนถูกโอนย้ายและสูญหายไป การประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานเหล่านี้จะสร้างความแข็งแกร่งและความรวดเร็วในการจัดการกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ ทำให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การป้องกัน การสืบสวน ไปจนถึงการจับกุมและลงโทษผู้กระทำความผิดให้ได้ถึงที่สุด

สรุปข่าวทั้งหมด

การผนึกกำลังระหว่าง กสทช. และหน่วยงานภาครัฐในการลงนาม MOU เพื่อกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ ถือเป็นการขานรับต่อสถานการณ์ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่กำลังเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศ ความร่วมมือในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การลงนามที่เป็นสัญลักษณ์ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานเชิงรุกที่ต้องอาศัยความร่วมมืออย่างจริงจังจากทุกภาคส่วน ทั้งการแลกเปลี่ยนข้อมูล การประสานงาน และการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการป้องกันและปราบปราม ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายจะต้องเร่งดำเนินการตามกรอบของ MOU อย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมในการลดจำนวนผู้ตกเป็นเหยื่อและมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ นอกจากนี้ การสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชนถึงภัยคุกคามรูปแบบต่างๆ รวมถึงวิธีการป้องกันตนเอง ก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกหน่วยงานควรให้ความสำคัญควบคู่กันไป เพื่อให้การปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์เป็นไปอย่างยั่งยืน และสร้างความปลอดภัยในการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลให้กับคนไทยทุกคน

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here