พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะที่เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมคนก่อนหน้า มีกำหนดจะนำแนวทางพิจารณาอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีม่วงในรูปแบบเหมาจ่ายทั้งวันในราคา 40 บาท เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สำหรับรายละเอียดของแนวทางนี้ กระทรวงคมนาคมได้เตรียมข้อมูลและผลการศึกษาไว้แล้วตั้งแต่ในช่วงที่นายพิพัฒน์ยังดำรงตำแหน่งอยู่ในกระทรวงคมนาคม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชน และส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ผู้โดยสารจะสามารถใช้บริการรถไฟฟ้าทั้งสองสายได้ไม่จำกัดจำนวนเที่ยวตลอดทั้งวัน ด้วยค่าใช้จ่ายที่คงที่ ถือเป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญที่มุ่งหวังจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจและเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางให้กับผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า
ประเด็นสำคัญจาก: “พิพัฒน์” จ่อเสนอ ครม.พิจารณาแนวทาง “รถไฟฟ้าแดง-ม่วง” เหมาจ่ายทั้งวัน 40 บ.
ประเด็นสำคัญจากการที่นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ เตรียมเสนอ ครม. พิจารณาแนวทางค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีม่วงในอัตราเหมาจ่าย 40 บาทต่อวันนั้น สรุปได้ว่ามาจากความมุ่งมั่นที่จะสานต่อนโยบายที่ได้ริเริ่มไว้ตั้งแต่สมัยที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยแนวคิดหลักคือการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางของประชาชน ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่มีค่าครองชีพสูงและระบบขนส่งสาธารณะมีค่าใช้จ่ายผันแปรตามระยะทาง
การเสนอแนวทางเหมาจ่าย 40 บาทต่อวัน ถือเป็นแนวทางที่เป็นรูปธรรมที่จะช่วยให้ประชาชนวางแผนค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้ง่ายขึ้น และส่งเสริมให้คนหันมาใช้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายส่วนบุคคลแล้ว ยังช่วยลดปัญหารถติดและมลภาวะในเขตเมืองอีกด้วย ทั้งนี้ การศึกษาและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความเป็นไปได้ในการดำเนินการ ได้รับการดำเนินการอย่างละเอียดรอบคอบโดยกระทรวงคมนาคม เพื่อให้มั่นใจว่ามาตรการนี้จะสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงและเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน
นอกจากนี้ ประเด็นนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความต่อเนื่องของนโยบายภาครัฐ แม้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งทางการเมือง แต่ประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับปากท้องของประชาชนยังคงได้รับการผลักดันและสานต่อ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับประชาชนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าและระบบขนส่งสาธารณะโดยรวม หากแนวทางนี้ได้รับการอนุมัติ ก็จะเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในการกำหนดอัตราค่าโดยสาร ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการพิจารณาแนวทางเดียวกันนี้กับระบบรถไฟฟ้าสายอื่นๆ ในอนาคตต่อไป เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้บริโภค
รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น
รายละเอียดที่สำคัญเพิ่มเติมจากแนวทางค่าโดยสารเหมาจ่าย 40 บาทต่อวัน สำหรับรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีม่วงนี้ คือการที่โครงการนี้ได้มีการศึกษาความเป็นไปได้และผลกระทบอย่างรอบด้านมาตั้งแต่ต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านของการบริหารจัดการรายได้และการชดเชยค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการรถไฟฟ้า ทั้งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ผู้เดินรถไฟฟ้าสายสีแดง และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ผู้เดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง การดำเนินการเช่นนี้จะต้องมีการประสานงานและตกลงกันอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานและคุณภาพการให้บริการ
แนวคิดการเหมาจ่ายนี้คาดว่าจะช่วยเพิ่มจำนวนผู้โดยสารให้หันมาใช้บริการรถไฟฟ้าทั้งสองสายมากขึ้น เนื่องจากสามารถเดินทางได้ไม่จำกัดเที่ยวในราคาที่แน่นอน ซึ่งจะช่วยลดความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มหากมีการเดินทางหลายต่อหรือเดินทางบ่อยครั้งในหนึ่งวัน การเพิ่มปริมาณผู้โดยสารย่อมส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม เพราะช่วยกระจายการเดินทาง ลดความแออัดบนท้องถนน และลดเวลาที่สูญเสียไปกับการจราจรติดขัด ทั้งยังสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมการใช้บริการขนส่งสาธารณะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมลพิษทางอากาศ
การนำเสนอต่อที่ประชุม ครม. ในครั้งนี้ จะต้องมีการนำเสนอข้อมูลที่ครบถ้วนเกี่ยวกับแผนการเงิน การประมาณการรายได้และรายจ่าย การวิเคราะห์จุดคุ้มทุน และผลประโยชน์ทางสังคมที่จะได้รับ เพื่อให้ ครม. สามารถพิจารณาอนุมัติได้อย่างรอบคอบและเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งประชาชนผู้ใช้บริการ ผู้ประกอบการ และรัฐบาลเอง หากได้รับการอนุมัติ คาดว่าจะมีระยะเวลาในการเตรียมการและประชาสัมพันธ์ก่อนเริ่มใช้งานจริง เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลและปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ
สรุปข่าวทั้งหมด
การเตรียมเสนอแนวทางค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีม่วงแบบเหมาจ่าย 40 บาทต่อวันของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ต่อคณะรัฐมนตรี ถือเป็นความพยายามที่จะสานต่อนโยบายเพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนและส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ แผนการดังกล่าวได้ผ่านการศึกษาและรวบรวมข้อมูลเชิงลึกจากกระทรวงคมนาคมแล้ว ซึ่งหากได้รับการอนุมัติ จะช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเดินทางได้อย่างคุ้มค่าและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยการเดินทางไม่จำกัดเที่ยวตลอดทั้งวันด้วยอัตราค่าโดยสารคงที่ การดำเนินการนี้คาดว่าจะช่วยเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการ ลดปัญหาสภาพการจราจร และสนับสนุนนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศ นอกจากนี้ ยังเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะของประชาชนอย่างยั่งยืน ซึ่งต้องจับตาดูผลการพิจารณาของ ครม. และขั้นตอนการดำเนินงานต่อไปภายหลังจากนี้
